04.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 7 เคาน์เตอร์ N สายการบิน TURKISH AIRLINE (TK) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง
06.25 น. ออกเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย โดยสายการบิน TURKISH AIRLINES (TK) เที่ยวบินที่ TK59 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 10.25 ชั่วโมง)
***เที่ยวบินหรือเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายการบินเป็นผู้กำหนด*** ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องบิน เนื่องจากเป็นตั๋วกรุ๊ป การจัดที่นั่งจะเป็นระบบ RANDOM ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกัน ทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่สายการบินเป็นผู้กำหนด
14.00 น. เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล (ISTANBUL AIRPORT) สนามบินใหม่ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศตุรเคีย นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง,ศุลกากรและรับสัมภาระเรียบร้อย (เวลาประเทศตุรเคียช้ากว่าประเทศไทย 4-5 ชั่วโมง กรุณาปรับเวลาให้ตรงตามเวลาท้องถิ่น เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) ในฤดูหนาว ตุรเคียจะช้ากว่าไทย 5 ชม. (เริ่มประมาณเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์) และฤดูร้อน (เริ่มประมาณ มีนาคม-กันยายน) ตุรเคียจะช้ากว่าเมืองไทย 4 ชั่วโมง
นำท่าน ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) ช่องแคบบอสฟอรัส มีความยาวประมาณ 30 กม. และมีความลึกแตกต่างกันไป ตั้งแต่ 36 ถึง 124 เมตร ในบริเวณตอนกลาง ส่วนที่แคบที่สุดอยู่บริเวณ ที่คั่นระหว่าง Kandilli และ Aşiyan ซึ่งมีความกว้าง 700 เมตร และส่วนที่กว้างที่สุด 3,700 เมตร อยู่ที่ทางเข้าด้านเหนือ การล่องเรือเพื่อชื่นชม สองฟากข้างทางของ ช่องแคบบอสฟอรัส ทำให้รู้สึกเพลิดเพลินกับ วิวทิวทัศน์ที่น่าประทับใจ และความสวยงามในสถาปัตยกรรม ของคฤหาสน์บ้านเรือน ทั้งสไตล์ออตโตมัน และสไตล์ยุโรป ที่แปลกตาไปจาก ประสบการณ์ที่คุ้นเคย นอกจากนี้เส้นทางล่องเรือ ยังผ่านสถานที่สำคัญๆ และมีชื่อเสียงของ นครอีสตันบูล เช่น หอคอยกาลาตา พระราชวังโดลมาบาเช เป็นต้น
นำท่านเพลินเพลินกับ ตลาดเครื่องเทศ (Spice Market) ตั้งอยู่ใกล้กับสะพานกาลาตา สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1660 เป็นตลาดในร่มและเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอิสตันบูล สินค้าส่วนใหญ่คือเครื่องเทศเป็นหลัก ทั้งยังมีถั่วชนิดต่าง ๆ รังผึ้ง น้ำมันมะกอก ไปจนถึงเสื้อผ้าเครื่องประดับ ฯลฯ อิสระช้อปปิ้ง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก GOLDEN WAY HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอังการา (ANKARA) เมืองหลวงของประเทศตุรเคีย เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอิสตันบูล มีความสำคัญทั้งทางธุรกิจและอุตสาหกรรม เป็นศูนย์กลางของรัฐบาลตุรเคียและเป็นที่ตั้งของสถานทูตประเทศต่างๆ ศูนย์กลางของการค้าขาย ให้ท่านอิสระพักผ่อนบนรถชมวิวเมือง (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5.30 ชม.)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
นำท่านเข้าชม สุสานอตาเติร์ก (Ataturk Mausoleum) อนุสรณ์สถาน หรือ สุสานขนาดใหญ่ของ “มุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก” บุคคลสำคัญผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็นบิดาแห่งชาวเติร์ก ของประเทศตุรเคีย และเป็นประธานาธิบดีคนแรกผู้นำตุรเคียเข้าสู่ยุคใหม่ สุสานแห่งนี้ประกอบด้วยพิพิธภัณฑ์และลานสำหรับทำพิธี ทำให้ชาวตุรเคียจำนวนไม่น้อยเดินทางมาด้วยวัตถุประสงค์คล้ายการจาริกแสวงบุญ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก KAHYA HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (CAPPADOCIA) มาจากภาษาเปอร์เชีย คัตปาตุกา (KATPATUKA) เมืองมหัศจรรย์ที่ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1985 เมืองนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟและถูกลาวาปกคลุมหลายพื้นที่ทับถมกันเป็นระยะเวลายาวนานจนกลายเป็นหิน ผ่านลม,ฝน,พายุ ปัจจุบันเกิดเป็นภูมิประเทศที่มีความสวยงามแปลกตาจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและอีกไฮไลท์ของเมืองนี้คือเป็นจุดขึ้นบอลลูนที่มีวิวสวยงามที่สุด (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชม.)
ระหว่างทางแวะถ่ายรูป ทะเลสาบเกลือ (LAKE TUZ) ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองในตุรเคียและเป็นหนึ่งในทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในโลก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
แวะถ่ายรูป หุบเขานกพิราบ (PIGEON VALLEY) จุดชมวิวอยู่ตรงบริเวณหน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่ ชาวบ้านเลี้ยงนกพิราบไว้เพื่อนำมูลมาทำเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้ จากจุดชมวิวสามารถมองเห็นปราสาทอุชิซาร์ (UCHISAR CASTLE) และยังมีต้นไม้จำลองที่เต็มไปด้วยดวงตาสีฟ้าแขวนอยู่โดดเด่น อิสระถ่ายภาพตามอัธยาศัย
นำท่านชม หุบเขาพาซาแบค (PASABAG VALLEY) กลุ่มภูเขาหินแปลกตารูปกรวยคล้ายมีหมวกวางอยู่บนสุด อดีตเมื่อ 1,500 ปีที่แล้วสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่พำนักของบาทหลวงไซมอนที่เดินทางมาเพื่อปลีกวิเวก แสวงหาที่ปฏิบัติธรรมและได้มาเจอสถานที่แห่งนี้ (HERMITAGE OF ST.SIMON) และเป็นที่นิยมสำหรับพระอีกหลายองค์ในเวลาต่อมา จนได้รับอีกสมญาว่า THE VALLEY OF THE MONKS
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก MUSTAFA HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้ามืด คณะพร้อมกัน ณ จุดนัดพบ (บริเวณ LOBBY โรงแรม) **เฉพาะท่านที่เลือกซื้อ Optionaltour**
** ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการซื้อ Option Tour (Balloon , Classic Car , Jeep) ผ่านหัวหน้าทัวร์เท่านั้น ด้วยเหตุผลในเรื่องของราคาทัวร์ และด้านความปลอดภัยของตัวท่านเอง รวมถึงการจัดการบริหารเวลาของกรุ๊ปทัวร์ ขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ **
⭕⭕ OPTION TOUR ⭕⭕ HILIGHT!! ขึ้นบอลลูนชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียในมุมสูง (CAPPADOCIA BALLOON VIEW) การขึ้นบอลลูน นั้นเป็นสัญลักษณ์ของตุรเคีย จะพาให้ท่านเคลิมเคลิ้มไปกับการชมพระอาทิตย์ยามเช้า และชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย แบบพาโนราม่าวิว ชมเมืองอารยธรรมโบราณ เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ สัมผัสบรรยากาศมุมสูง เก็บภาพที่สวยงามรอบตัว (ค่าใช้จ่ายในการขึ้นบอลลูน ราคาท่านละประมาณ 280 USD/ท่าน *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้* สามารถสอบถามและชำระเงินได้ที่หัวหน้าทัวร์ ทั้งนี้.. การขึ้นบอลลูนนั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศที่เหมาะสม* โดยจะคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นสำคัญ **ประกันภัยที่ทำจากเมืองไทย ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท กิจกรรมนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน**)
หรือ ⭕⭕ OPTION TOUR ⭕⭕ JEEP SAFARI เที่ยวชมเมืองคัปปาโดเกีย ตุรเคีย หนึ่งในการเดินทางที่สุดประทับใจ บนเส้นทางที่สุดตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ ของเมืองประวัติศาสตร์นับล้านปี ชมความงามของหุบเขาที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติสรรค์สร้าง (ค่าใช้จ่ายในการนั่ง JEEP SAFARI ราคาท่านละประมาณ 120 USD/ท่าน *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้* สามารถสอบถามและชำระเงินได้ที่หัวหน้าทัวร์)
หรือ ⭕⭕ OPTION TOUR ⭕⭕ CLASSIC CAR นั่งรถคลาสสิคเปิดประทุนชมวิวบอลลูนอย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่าเป็น UNSEEN ของเมืองคัปปาโดเกียแห่งนี้ ที่จะต้องมาถ่ายรูปคู่กับบอลลูนสีสันสดใส คู่กับรถเปิดประทุนสุดคลาสสิค นั่งรถเปิดประทุนสูดอากาศเย็นๆ ยามเช้า ชมวิวบอลลูนสดใสบนท้องฟ้า (ค่าใช้จ่ายในการนั่ง CLASSIC CAR ราคาท่านละประมาณ 120 USD/ท่าน *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้* สามารถสอบถามและชำระเงินได้ที่หัวหน้าทัวร์)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านชม นครใต้ดินชาดัค (UNDERGROUND CITY OF CHADAK) เมื่อ 2-3 พันปีก่อนคริสตกาล ชาวคัปปาโดเชียได้มีการสร้างเมืองใต้ดินเพื่อเป็นหลุมหลบภัยจากการบุกรุกของชาวโรมัน ขุดเจาะไปเรื่อยๆ จนใต้พื้นดินคัปปาโดเชียกลายเป็นเมืองอีกหลายๆ เมือง ภายในมีทั้ง โบสถ์คริสจักร โรงเรียนสอนศาสนา โรงเก็บไวน์ คอกไม้ บ่อน้ำ ห้อง โถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร ฯลฯ และยังมีอีกหลายส่วนที่ยังไม่ได้ขุดค้น ให้ท่านได้ชมความมหัศจรรย์เมืองใต้ดินและเก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย จนถึงเวลาอันสมควร
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
จากนั้นนำท่านแวะชม หมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผาอวานอส (AVANOS) หมู่บ้านที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผา อุปกรณ์ที่ใช้ภายในบ้าน ถ้วย,ชาม,ไห,โอ่ง,แจกันและเครื่องประดับบ้าน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก MUSTAFA HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้ามืด คณะพร้อมกัน ณ จุดนัดพบ (บริเวณ LOBBY โรงแรม) **เฉพาะท่านที่เลือกซื้อ Optionaltour**
** ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการซื้อ Option Tour (Balloon , Classic Car , Jeep) ผ่านหัวหน้าทัวร์เท่านั้น ด้วยเหตุผลในเรื่องของราคาทัวร์ และด้านความปลอดภัยของตัวท่านเอง รวมถึงการจัดการบริหารเวลาของกรุ๊ปทัวร์ ขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ **
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (KONYA) ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุกเติร์ก ค.ศ. 1077-1118 อาณาจักรแห่งแรกของชาวเติร์กในตุรเคีย หรือที่ยุคนั้นเรียกอนาโตเลีย เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ คนส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา มีการปลูกฝิ่นและผลไม้อร่อย เมืองนี้มีประวัติที่เก่าแก่มาก เป็นที่ตั้งของสุสานเมฟลานา ผู้ริเริ่มการทำสมาธิแบบเป็นวงกลม ในแต่ละปีจึงมีผู้แสวงบุญมาเยือนที่นี่กันเป็นจำนวนมาก (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3.30 ชม.)
นำท่านแวะถ่ายรูป พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (MEVLANA MUSEUM) ได้รับการประกาศรับรองให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติ เป็นที่ตั้งของสำนักพวกเดอร์วิช (DERVISH) มีหน้าที่ในการชักชวนพลเมืองชาวคริสต์ในคาบสมุทรอนาโตเลีย ให้หันมานับถือศาสนาอิสลาม และลดช่องว่างระหว่างราษฏรกับผู้ปกครองชาวเซลจุก ส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์นี้เป็นสุสานของเมฟานา เจลาเลดดิน ภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียวสดใส ภายในประดับประดาฝาผนังแบบมุสลิม โดยใช้สีมากมายตระการตา ซึ่งหาชมได้ยาก และยังเป็นสุสานสำหรับผู้ติดตาม สานุศิษย์ บิดา และบุตรของเมฟลานาด้วย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
แวะถ่ายรูป คาราวานซาราย (CARAVANSARAI) ที่พักของกองคาราวานในสมัยโบราณ เป็นสถานที่พักแรมของกองคาราวานตาเส้นทางสายไหมและชาวเติร์กสมัยออตโตมัน
เดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ (PAMUKKALE) แปลว่า ปราสาทปุยฝ้าย อยู่ในเมืองชื่อเดียวกัน จังหวัดเดนิซลี ประเทศตุรเคีย เป็นเนินเขาหินปูนสีขาว มีความยาวประมาณ 2.7 กิโลเมตร สูง 160 เมตร เกิดจากน้ำพุร้อนที่นำแคลเซียมคาร์บอเนตมาตกตะกอน ปามุคคาเล่ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกร่วมกับฮีเอราโปลิสซึ่งเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนปามุคคาเล่ ใน พ.ศ. 2531 (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5.30 ชม.)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก TRIPOLIS HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม เมืองเฮียราโพลิส (HIERAPOLIS) เมืองโรมันโบราณที่สร้างล้อมรอบบริเวณที่เป็นน้ำพุเกลือแร่ร้อนซึ่งเชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรคเมื่อเวลาผ่านไปภัยธรรมชาติได้ทำให้เมืองนี้เกิดการพังทลายลงเหลือเพียงซากปรักหักพังกระจายอยู่ทั่วไป เช่นโรงละครแอมฟิเธียร์เตอร์ขนาดใหญ่ วิหารอพอลโล สุสานโรมันโบราณ
นำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย (PAMUKKALE) น้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นแร่หินปูนผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมากไหลลงมาจากภูเขา “คาลดากึ” ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จนทำให้ปามุคคาเล่และเมืองเฮียราโพลิสได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 ชมความสวยงามของแอ่งน้ำหินปูนธรรมชาติตัดกับหน้าผาที่กว้างขวางมีลักษณะสวยงามมหัศจรรย์แตกต่างออกไปมากมายคล้ายหิมะ ก้อนเมฆหรือปุยฝ้ายน้ำแร่มีอุณหภูมิประมาณ 33 – 35.5 องศาเซลเซียส อิสระเก็บภาพประทับใจจนถึงเวลาอันสมควร
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
เดินทางสู่ ชานัคคาเล่ (CANAKKALE) เมืองท่าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของตุรเคียมีดินแดนอยู่ในยุโรปและเอเชียเช่นเดียวกับอิสตันบูล เมืองนี้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของสงครามโลกครั้งที่ 1 เพราะที่ชานัคคาเล่นี้ทหารสัมพันธมิตรได้ยกพลขึ้นบกและทำการรบในสงครามกาลิโปลี (GALLIPOLI) หรือ กัลป์ลิโปลีโดยในทุกๆปีจะมีการจัดงานรำลึกให้กับผู้เสียชีวิตในวัน ANZAC DAY ทุกวันที่ 25 เมษายน ทุกปี ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ตุรเคียเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่กลับชนะในสงคราม กัลป์ลิโผลี จนทำให้นายพล มุสตาฟา เคมาล ปาชา (MUSTAFA KEMAL PASHA) กลายเป็นมหาวีรบุรุษสำคัญของชาติ ซึ่งต่อมา มุสตาฟา เคมาล ปาชา ก็คือ อตาเติร์ก บิดาแห่งชาติตุรเคีย (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 6 ชม.)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก IRIS HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
แวะถ่ายรูป HOLLYWOOD ม้าไม้จำลองเมืองทรอย (WOODEN HORSE OF TROY) ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองชานัคคาเล่ ม้าไม้เมืองทรอยตามเรื่องเล่านั้นเกิดจากการต่อสู้ระหว่างกองทัพกรีกและกรุงทรอย ต่อสู้กันนานนับสิบปี กองทัพกรีกจึงคิดแผนการที่จะตีกรุงทรอยโดยการสร้างม้าไม้ โดยทหารกรีกได้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ภายในซอกต่างๆของม้าและเข็นไปไว้หน้าเมืองทรอย ชาวเมืองทรอยเห็นก็นึกว่ากองทัพกรีกได้ถอยทัพยอมแพ้ไปแล้วและมอบม้าไม้จำลองเป็นของขวัญ จึงเข็นเข้าไปไว้ในเมือง ตกกลางคืนชาวทรอยนอนหลับหมด ทหารที่ซ่อนอยู่ในม้าก็ออกมาเปิดประตูให้กองทัพกรีกเข้ามาทำการยึด และเผากรุงทรอยจนย่อยยับ ซึ่งม้าไม้จำลองแห่งเมืองทรอยที่เห็นอยู่ในเมืองชานัคคาเล่ นี้ได้รับมาจากกองถ่ายทำละคร วอเนอร์ บราเธอร์ ใช้ถ่ายทำละคร เรื่องทรอย เมื่อถ่ายทำเสร็จแล้วจึงยกให้เป็นสมบัติของที่นี่ตั้งแต่ปี 2004 อิสระเก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย จนถึงเวลานัดหมาย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล (ISTANBUL) เมืองสำคัญอันดับ 1ของประเทศ เดิมชื่อ คอนแสตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรเคีย ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส(BOSPHORUS) ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีปคือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง THRACE ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) ซึ่งในอดีตอิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิสตันบูลมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชม.)
กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
นำท่าน ท่องเที่ยวย่าน BALAT เป็นย่านที่เก่าแก่และสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจเมื่อได้มาเยือน ตั้งอยู่ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย พื้นถนนปูด้วยหินก้อนโตๆ บ้านเรือนมีลักษณะเป็นตึก และมีสีสันแจ่มจรัส แต่มีอายุมากกว่า 50 ปีมาแล้ว ซึ่งในบางหลังมีอายุกว่า 200 ปีที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีคาเฟ่และร้านอาหารมากมายตั้งอยู่ที่นี่
ถ่ายรูปคู่กับ หอคอยกาลาตา GALATA TOWER (GALATA KULESI) หรือบางทีเรียกว่า CHRISTEA TURRIS ซึ่งแปลว่า หอคอยแห่งพระคริสต์ ในภาษาละติน เป็นหอคอยหินยุคกลางในเขตกาลาตา-คาราค็อย (GALATA – KARAKÖY) ของนครอีสตันบูล, ประเทศตุรเคีย เป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญที่โดดเด่นที่สุดของเมือง ด้วยลักษณะทรงกระบอกสูง ของหอคอยที่โดดเด่นเหนือเส้นขอบฟ้า ทำให้เกิดทัศนียภาพอันงดงาม ของคาบสมุทร และบริเวณโดยรอบของเมืองอิสตันบูล นอกจากนี้ตลอดแนวถนน ยังเต็มไปด้วยอาคาร และร้านค้า ที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป ที่สวยงามและแปลกตาอีกด้วย
นำท่านเดินทางสู่ จตุรัสทักซิมสแควร์ (Taksim Square) เป็นที่ท่องเที่ยวและการพักผ่อนที่อำเภอที่สำคัญมีชื่อเสียงสำหรับร้านอาหาร, ร้านค้า, และโรงแรม ที่นี่ถือเป็นหัวใจสำคัญของอิสตันบูลสมัยใหม่โดยมีสถานีกลางของเครือข่ายรถไฟใต้ดินอิสตันบูล
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก GOLDEN WAY HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
**** โปรดแต่งกายด้วยชุดสุภาพ สำหรับการเข้าชมสุเหร่า และจำเป็นต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าชม ****
🧕 สุภาพสตรี : : ควรสวมกางเกงขายาวคลุมข้อเท้า เสื้อแขนยาวคลุมข้อมือ มิดชิดไม่รัดรูปและเตรียมผ้าสำหรับคลุมศีรษะ
👳 สุภาพบุรุษ :: ควรสวมกางเกงขายาว และเสื้อแขนยาว ไม่รัดรูป
นำท่านชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) หรือ SULTAN AHMET MOSQUE ถือเป็นสุเหร่าที่มีสถาปัตยกรรมเป็นสุดยอดของ 2 จักรวรรดิ คือ ออตโตมันและไบเซนไทน์ เพราะได้รวบรวมเอาองค์ประกอบจากวิหารเซนต์โซเฟียผนวกกับสถาปัตยกรรมแบบอิสลามดั้งเดิม ถือว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในตุรเคีย สามารถจุคนได้เรือนแสน ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึงระหว่างปี ค.ศ. 1609-1616 โดยตั้งชื่อตามสุลต่านผู้สร้างซึ่งก็คือ SULTAN AHMED นั้นเอง
นำท่านชม จัตุรัสสุลต่านอะห์เมต หรือ ฮิปโปโดรม (HIPPODROME) (ภายนอก) สนามแข่งม้าของชาวโรมัน จุดศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยวเมืองเก่า สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเซปติมิอุสเซเวรุสเพื่อใช้เป็นที่แสดงกิจกรรมต่างๆของชาวเมือง ต่อมาในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนติน ฮิปโปโดรมได้รับการขยายให้กว้างขึ้นตรงกลางเป็นที่ตั้งแสดงประติมากรรมต่าง ๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นศิลปะในยุคกรีกโบราณในสมัยออตโตมันสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่จัดงานพิธีแต่ในปัจจุบันเหลือเพียงพื้นที่ลานด้านหน้ามัสยิดสุลต่านอะห์เมตซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิกส์ 3 ต้น คือเสาที่สร้างในอียิปต์เพื่อถวายแก่ฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3 ถูกนำกลับมาไว้ที่อิสตันบูลเสาต้นที่สอง คือ เสางู และเสาต้นที่สาม คือเสาคอนสแตนตินที่ 7
นำท่านชม สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (MOSQUE OF HAGIA SOPHIA) (ภายนอก) หรือวิหารเซนต์โซเฟีย หรือ HAGHIA SOFIA (ฮายาโซฟีอา)บางคนอาจออกเสียงฮาเกียโซเฟีย หรือในภาษาตุรเคียเรียก AYASOFYA เซนต์โซเฟีย แปลว่า โบสถ์แห่งปัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ คำว่า "SOFIA" มาจากคำในภาษากรีกที่แปลว่า "ปัญญา" จึงไม่มีความเกี่ยวข้องกับนักบุญที่ชื่อ SOFIA แต่อย่างใด เซนต์โซเฟียนับเป็นสิ่งก่อสร้างจากฝีมือมนุษย์ที่มีความสวยงามอลังการ ตั้งอยู่ในกรุงคอนสแตนติโนเปิล (CONSTANTINOPLE) หรือปัจจุบันคือกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย สุเหร่าแห่งนี้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกลำดับที่ 8 ในยุคกลาง สร้างในสมัยของจักรพรรดิจัสติเนียน แห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์
เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่สนามบินอิสตันบูล
16.25 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย TURKISH AIRLINES (TK) เที่ยวบินที่ TK58 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 10.25 ชั่วโมง)
06.05 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ |
---|---|---|---|
30 พ.ย. 67 - 08 ธ.ค. 67 | 39,999 บาท | 10,999 บาท | สอบถามเพิ่มเติม |
เงื่อนไขการให้บริการ
การยกเลิก
เนื่องจากราคานี้เป็นราคาโปรโมชั่น ตั๋วเครื่องบินการันตีการจ่ายเงินล่วงหน้าเต็ม 100% ซึ่งเมื่อจองและจ่ายมัดจำแล้ว ถ้าผู้จองยกเลิกจะไม่มีการคืนเงินค่ามัดจำหรือค่าทัวร์ใดๆ ทั้งสิ้น
หมายเหตุ